วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศในประเทศไทย


ท่องแม่น้ำสุพรรณบุรี





              เมืองอู่ข้าวอู่น้ำแห่งที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยานี้ นับเป็นเมืองใหญ่ และเก่าแก่ของภาคกลาง มีผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์มีคนกลุ่มต่างๆ เข้ามาอาศัยอยู่มากขึ้น ส่วนใหญ่ตั้งถิ่นฐานอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน หรือแม่น้ำสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสายน้ำเส้นสำคัญของเมือง ใช้ทั้งอุปโภคบริโภคและการคมนาคม ชุมชนและวัดวาอารามเก่าแก่หลายแห่ง จึงปรากฏอยู่สองฝั่งแม่น้ำ เรียงรายกันไปแทบไม่ขาดตอน นับเป็นสิ่งสะท้อนรากเหง้า ทางวัฒนธรรมที่เปี่ยมด้วยคุณค่า  








สิ่งที่น่าสนใจในเส้นทาง


         กลุ่มศิลปหัตถกรรมบ้านธรรมกุล ชาวบ้านรวมกันผลิตแจกันดินเผา แนวจิตรกรรมไทย โดยนำแจกันรูปทรงต่างๆ มาวาดภาพอย่างสวยงาม แล้วหุ้มด้วยผักตบชวาสาน เป็นการพัฒนารุปแบบให้สวยงาม และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ นักท่องเที่ยวที่สนใจผลิตภัณฑ์ สามารถเลือกซื้อได้ในราคาไม่แพง 







       วัดพระนอน  สิ่งสำคัญภายในวัดคือ พระนอนที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร ทรงจัตุรมุขยอดปรางค์  พระพุทธรูปองค์นี้ มีพุทธลักษณะพิเศษ ต่างจากพระนอนทั่วไป คือทำท่านอนหงายพระหัตถ์ ประสานวางบนพระองค์ที่มีขนาด 8 ศอก  ลักษณะเช่นนี้ พบที่เมืองกุสินารา สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้าในประเทศอินเดีย นอกจากนี้ บริเวณท่าน้ำของวัด ยังจัดเป็นเขตอภัยทาน และอนุรักษ์พันธุ์ปลา ตั้งชื่อว่า อุทยานมัจฉา






        วัดแค วัดนี้เป็นวัดที่เกี่ยวข้องกับวรรณคดีสำคัญ เรื่องขุนช้างขุนแผน คือเป็นวัดที่เณรแก้ว (ขุนแผน) มาศึกษาหาความรู้กับสมภารคง เณรแก้วร่ำเรียนจนมีวิชาอาคม เก่งกล้าวิชาหนึ่ง คือใช้ใบมะขามมาเสกเป็นต่อแตน ใบมะขามที่ว่า  เณรแก้วคงเด็ดมาจาก ต้นมะขามยักษ์ภายในวัดนี้เอง ไม้ต้นนี้ยังมีอยู่จริง และเป็นต้นไม้อนุรักษ์ของจังหวัดสุพรรณบุรีด้วย ใกล้ฝั่งแม่น้ำมีเรือนไทยภาคกลางหลังย่อม เรียกว่า คุ้มขุนแผน  เป็นเรือนหมู่สี่หลังล้อมหอกลาง











       หอคอยบรรหาร - แจ่มใส เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูง 123 เมตร ตั้งเด่นอยู่กลางเมือง ในบริเวณสวนเฉลิมภัทรราชินี  เมื่อขึ้นไปบนหอคอย จะแลเห็นทิวทัศน์ของเมืองสุพรรณบุรี ได้กว้างไกลสุดสายตา









        วัดพระรูป ภายในวัดเก่าแก่แห่งนี้ มีโบราณวัตถุที่สำคัญ คือ พระพุทธไสยาสน์ ขนาดองค์ยาวประมาณ 13 เมตร สูง 3 เมตร สันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้น ในราวพุทธศตวรรษที่ 17 - 19 ฝีมือเชิงช่างงดงามมาก โดยเฉพาะพระพักตร์รูปแป้นกลม ลักษณะศิลปะแบบอู่ทองรุ่นหลัง และยังมีพระพุทธบาทไม้ ด้านหนึ่งจำหลักรอยพระพุทธบาท มีมงคลร้อยแปดประการ อีกด้านหนึ่งจำหลักภาพพุทธประวัติ ตอนมารผจญ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้บนศาลาการเปรียญ






        ตลาดเก้าห้อง ในอดีตตลาดแห่งนี้ เป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ แม้บรรยากาศจะซบเซามาหลายสิบปี อันเนื่องจากการคมนาคมที่เปลี่ยนไป ใช้ถนนแทนทางน้ำ อย่างไรก็ตาม ตัวอาคารร้านค้าก็ยังคงสภาพแบบเดิม ซึ่งหาดูได้ยาก ลักษณะเป็นอาคารไม้สองชั้น ปลูกติดกันเป็นห้องแถวยาวหลายสิบห้อง ห้องแถวสองฝั่งนี้ เชื่อมด้วยหลังคาคลุมถนนเล็กๆ ที่พาดผ่านอยู่ตรงกลาง กลางตลาดมีหอคอยสูงราวตึกสามชั้น ในอดีตใช้เป็นที่ตรวจส่องโจรในยามค่ำคืน ในตลาดยังมีร้านของกินเก่าแก่ ฝีมือดีหลายร้าน เช่น ร้านขนมเปี๊ยะ ร้านเป็ดพะโล้ เป็นต้น











วีดีโอแสดงการท่องเที่ยวทางน้ำ







การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ


การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism)

       เป็นรูปแบบหนึ่งของการท่องเที่ยวในปัจจุบันที่นานาประเทศ ให้การสำคัญ เพื่อการมุ่งไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศและนานาชาติ ตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Environmentally Sustainable Development) โดยให้ความสำคัญแก่การให้การศึกษาหรือการเรียนรู้ หรือมุ่งเน้นให้เกิดการอนุรักษ์มากกว่าการจัดการลดหรือปราศจากผลกระทบและนักท่องเที่ยวพึงพอใจเท่านั้น แต่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศจะต้องเป็นการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ มีการจัดการรักษาสิ่งแวดล้อม และให้การศึกษาแก่นักท่องเที่ยว]







ความหมายของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ 


           บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา (2542) ให้ความหมายการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หมายถึง การท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยมีการให้ความรู้แก่ผู้เกี่ยวข้อง และให้ชุมชนท้องถิ่น และสร้างจิตสำนึกให้ทุกฝ่ายร่วมกันรับผิดชอบต่อระบบนิเวศอย่างยั่งยืน

          ราฟ บุคเลย์ (Raff Buckley, 1992 อ้างใน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย, 2542) นิยามว่า คือการท่องเที่ยวที่ถูกจัดการดูแลอย่างยั่งยืน อยู่บนพื้นฐานของธรรมชาติ มีการศึกษาด้านการเรียนรู้วัฒนธรรม และ/หรือ สิ่งแวดล้อมเอื้อประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ และสร้างความพึงพอใจแก่นักท่องเที่ยว








สาระสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ


          ศูนย์วิจัยป่าไม้ (2538) ได้สรุปสาระสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไว้ ดังนี้

            1.  แหล่งท่องเที่ยวที่จะส่งเสริมควรเป็นพื้นที่ธรรมชาติ   ที่มีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อมเป็นหลัก และอาจรวมถึงแหล่งประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวัฒนธรรมที่ปรากฏในพื้นที่ด้วย

          2.  ควรเป็นการท่องเที่ยวที่ทุกฝ่ายมีความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมธรรมชาติและระบบนิเวศ เป็นการท่องเที่ยวที่ไม่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติ สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม

          3.  เน้นให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส  ได้รับประสบการณ์ และการเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติโดยตรง อีกทั้งเสริมสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

          4. เป็นการท่องเที่ยวที่ให้ประโยชน์กลับคืนสู่ธรรมชาติ เอื้อประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นทั้งทางตรงและทางอ้อม

          5. มุ่งเน้นคุณค่าลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของธรรมชาติที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในการดึงดูดใจนักท่องเที่ยว แต่ไม่เน้นที่การเสริมแต่ง พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก

          จากที่กล่าวมาข้างต้น ได้สะท้อนภาพของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไว้อย่างชัดเจน ว่าเป็นการท่องเที่ยวและการพัฒนาไปพร้อมๆกัน โดยเฉพาะการพัฒนาจิตสำนึกของนักท่องเที่ยวให้มีความตระหนักในการรักษาสิ่งแวดล้อม





องค์ประกอบหลักของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (2544) ได้กล่าวถึงองค์ประกอบหลักที่สำคัญของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มี 4 ประการคือ

          1. องค์ประกอบด้านพื้นที่

                  เป็นการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่เกี่ยวเนื่องกับธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น  รวมทั้งแหล่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบนิเวศ (Eco-system) ในพื้นที่นั้นๆ

          2.    องค์ประกอบด้านการจัดการ    

                เป็นการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบ (Responsible Travel) โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม มีการจัดการที่ยั่งยืนครอบคลุมไปถึงการอนุรักษ์ทรัพยากร การจัดการสิ่งแวดล้อม การป้องกันและจำกัดมลพิษ ภาวะ และควบคุมอย่างมีขอบเขต จึงเป็นการท่องเที่ยวที่มีการจัดการยั่งยืน

          3.  องค์ประกอบด้านกิจกรรมและกระบวนการ    
               เป็นการท่องเที่ยวที่มีกระบวน การเรียนรู้ โดยมีการให้ศึกษาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม  และระบบนิเวศของแหล่งท่องเที่ยว เป็นการเพิ่มพูนความรู้  ประสบการณ์ ความประทับใจ เพื่อสร้างความตระหนักและปลูกจิตสำนึกที่ถูกต้องต่อนักท่องเที่ยว ประชาชนท้องถิ่น และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง

         4. องค์ประกอบด้านการมีส่วนร่วม
                  เป็นการท่องเที่ยวที่มีการคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชนท้องถิ่น และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง  ที่มีส่วนร่วมในการคิด วางแผน ปฏิบัติตามแผน ได้รับประโยชน์ติดตามตรวจสอบ ตลอดจนร่วมบำรุงรักษาทรัพยากรการท่องเที่ยว อันจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ในท้องถิ่น ทั้งการกระจายรายได้ การยกระดับคุณภาพชีวิต และการได้รับผลตอบแทนเพื่อกลับมาบำรุงรักษา และจัดการแหล่งท่องเที่ยวด้วย

          จากองค์ประกอบหลักที่สำคัญของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศดังกล่าว จะเห็นว่าองค์ประกอบด้านการมีส่วนร่วมนั้นจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ในท้องถิ่น ทั้งการกระจายรายได้ การยกระดับคุณภาพชีวิต และการได้รับผลตอบแทนเพื่อกลับมาบำรุงรักษา และจัดการแหล่งท่องเที่ยวด้วย 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sara-dd.com/index.php?option=com_content&view=article&id=220:ecotourism-tourism&catid=25:the-project&Itemid=72